The Armstrong Lie

12, September 2014
Share   0 
The Armstrong Lie
The Armstrong Lie

หนังสารคดีตีแผ่ความจริงของบุคคลระดับโลก ของ Alex Gibney เจ้าพ่อตัวกลั่นในวงการสารคดี เขาเคยได้รางวัลออสการ์จากสารคดีเชิงสอบสวน Taxi to the Dark Side (2007) มาแล้ว และคราวนี้จากการติดตาม Lance Armstrong มาตั้งแต่ปี 2009 ที่เขาวางพล็อตตั้งต้นไว้ว่า เป็นการกลับมาต่อสู้ของชายผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโลกและตัวเอง เพื่อให้เป็นสารคดีมอบแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่กำลังล้มเลิกและพ่ายแพ้ แต่แล้วกลับกลายเป็นหนังสารคดีเชิงสอบสวนไปโดยไม่ตั้งใจ เมื่อปี 2012 Lance ถูกประกาศว่ามีความผิดจากการใช้สารกระตุ้นและถูกริบรางวัลทั้งหมดรวมถึงการเป็นแชมป์จักรยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Tour de France ทั้ง 7 สมัย (1999-2005) ของเขาด้วย

Gibney ขอสัมภาษณ์ Lance ในปี 2013 ซึ่งเป็นช่วงที่ Lance ออกมาสารภาพทุกความผิดของเขาในรายการ Oprah Winfrey Gibney รู้ว่า Lance น่าจะพร้อมตอบปัญหาคาใจของเขาหลายๆประการในฐานะที่เขาติดตาม Lance มาหลายปี และเพื่อปิดฉากหนังเรื่องนี้ลงเสียที

หนังสารคดีเรื่องนี้มีความโดดเด่นตรงที่ไม่ใช่หนังเชิงสืบสวนความผิดเพื่อไล่ต้อนคนบางคนอย่างที่เราคุ้นเคย Gibney เปิดเรื่องด้วยความชัดเจนว่า Lance มีความผิดและกำลังรับผลกรรมที่ตนก่ออย่างไร สิ่งที่สำคัญที่ Gibney มองหา คือ ความสงสัยในฐานะคนที่ติดตามการโกหกหน้าตายของ Lance และเป็นคนหนึ่งที่เคยเชื่อในปาฏิหาริย์ลวงโลกที่ Lance สร้างขึ้น คำถามของ Gibney ง่ายมาก คือ Lance เป็นคนอย่างไร กำลังคิดอะไรอยู่ในตอนที่เขาทำเรื่องนี้กับคนทั้งโลก และเมื่อเราดูหนังเรื่องนี้เรามองเห็นความผิดของเขาเป็นอย่างไร

หนังเล่าเรื่องตั้งแต่ Lance เริ่มอาชีพนักกีฬาเมื่ออายุ 16 ปี เพื่อหาเงินมาดูแลแม่ซึ่งเลี้ยงเขาเพียงลำพัง จนเขาประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลก แต่โชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อเขาพบว่าตนเป็นมะเร็งที่ลูกอัณฑะซึ่งลามไปถึงปอดแล้วในเวลานั้น และจำเป็นที่จะต้องเลิกปั่นจักรยานมารักษาตัวเป็นเวลาหลายปี แต่เขาก็เอาชนะโรคร้ายได้และกลับมาลงแข่งจนชนะ Tour de France ได้ในที่สุด ปาฏิหาริย์ของนักสู้ผู้เอาชนะความตายและกลับมาเอาชนะโลกได้สำเร็จ คือ เทพนิยายยุคใหม่ที่ใครๆจดจำได้เป็นอย่างดี เขาก่อตั้งมูลนิธิ Live Strong เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งโดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งภายหลังการรณรงค์ของLance เรื่องมะเร็ง ก็ได้ก่อให้เกิดวัฒนธรรมป็อปอย่างริสต์แบนด์ (Wristband) ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกรวมถึงในไทยด้วย


หลังจากคว้าแชมป์ติดต่อกัน 7 สมัย เขาจึงได้ประกาศวางมือจากวงการนักปั่น และมีชีวิตที่ภาคภูมิและสวยงามในฐานะตำนาน แม้จะมีคำครหามาตลอดเรื่องการใช้สารกระตุ้น แต่เขาก็เอาชนะข่าวลือพวกนั้นมาได้เสมอ

แต่แล้วในปี 2009 Lance ในวัย 40 ปีกลับมาลงสนามอีกครั้งท่ามกลางความประหลาดใจของหลายๆคนและคำถามมากมายว่า เขากลับมาทำไม และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนความสำเร็จประโลมโลกย์ทั้งหลายที่ผ่านมาของเขาด้วย


หนังใช้การสัมภาษณ์แลนส์ 3 ช่วงเวลาที่แตกต่างกันมาดำเนินเรื่อง และพร้อมๆกันนั้นคนดูจะได้เห็นการโกหกและความจริงจากเขาไปพร้อมๆกันเพื่อตัดสินว่าเขาเป็นคนอย่างไร

ช่วงเวลาแรกคือ ปี 2009 Lance ชายผู้ยิ่งใหญ่กลับมาทวงบัลลังก์ของตนพร้อมพิสูจน์ข้อครหาทั้งหลายเรื่องการโกงของเขาด้วย Lance คงอยากให้ Gibney ได้ภาพความสำเร็จของเขาไปสร้างหนังที่มีพลังบัลดาลใจคนทั้งหลาย โดยเขาซ่อนความจริงและโกหกเรื่องราวในอดีตของเขาไปพร้อมกัน

ช่วงเวลาต่อมาคือ 14 มกราคม 2013 สามชั่วโมงก่อนการให้สัมภาษณ์ครั้งสำคัญในรายการของ Oprah ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนเรื่องการสอบสวนเขาเรื่องสารกระตุ้น และเขากำลังเตรียมใจเพื่อสารภาพบาปต่อคนทั้งโลก

ช่วงเวลาสุดท้าย 24 พฤษภาคม 2013 ห้าเดือนหลังการสารภาพผิดต่อหน้าทีวี Gibney กลับมาเพื่อถามคำถามคาใจเขาเองหลายอย่างในฐานะคนหนึ่งที่โดนแลนส์หลอกลวง และคิดว่าตอนนี้ Lance เองก็คงตกตะกอนความคิดหลายๆอย่างแล้ว

หนังยังได้สัมภาษณ์และเล่าเรื่องจากบุคลากรที่เกี่ยวข้องมากมายทั้ง ผู้จัดการทีมของ Lance อดีตเพื่อนร่วมทีม หมอประจำตัวผู้อื้อฉาว ประธานองค์กรจัดการแข่งจักรยานระดับโลก และนักข่าวนักวิจารณ์ที่ตามจิกกัดเขาไม่ปล่อยมาตลอด ทั้งหมดนี้ทำให้เราเห็นความโสมมของวงการกีฬาจักรยานที่ดำเนินมาเป็น 100 ปี ความพยายามที่จะทำให้ภาพลักษณ์ขาวสะอาด และการร่วมกันปกปิดความผิดบาปของคนกันเองเพื่อผลประโยชน์มากมาย

หนังดำเนินไปท่ามกลางการท้าทายต่อมาตรฐานทางจริยธรรมว่า แน่นอนสิ่งที่เขากระทำเป็นความผิด แต่มันผิดในระดับไหน เขาทำไปเพราะต้องการดูแลแม่ของเขา เขาทำไปเพราะจิตวิญญาณในการไม่อยากแพ้แบบอเมริกันชน เขาทำไปเพราะขึ้นหลังเสือแล้วลงลำบาก หรือเขาทำไปเพราะปาฏิหาริย์ที่เขาสร้างขึ้นเป็นแรงบันดาลใจให้คนมากมายเกินกว่าจะบอกในตอนนี้ว่าทั้งหมดเป็นแต่เพียงคำโกหก

Gibney ปิดท้ายว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของการโกงในความหมายของการหลอกลวง ที่ Lance สร้างขึ้น แต่มันเป็นการหลอกลวงที่ดูเหมือนแฟนๆของ Lance และโลกต่างยอมให้ถูกหลอกแม้จะมีใครกล่าวหาอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตราบใดที่ Lance บอกว่าเขาไม่ผิด 

Lance ได้โอกาสกล่าวทิ้งท้ายในหนังเรื่องนี้อย่างน่าสนใจว่า "ในอนาคตอันใกล้หรือไกล พวกเราจะมองสิ่งที่เขาทำเป็นความผิดอยู่ไหม" 

คำถามของ Lance กระตุกต่อคิดของเราได้มากทีเดียว