กระแสหวนกลับ ในโลกยุคดิจิตอลนอสแตลเจีย

04, August 2012
Share   0 
กระแสหวนกลับ ในโลกยุคดิจิตอลนอสแตลเจีย
กระแสหวนกลับ ในโลกยุคดิจิตอลนอสแตลเจีย

นอสแตลเจีย (Nostalgia) เป็นศัพท์ที่ได้ยินอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แตกต่างจากเมื่อประมาณสิบปีก่อนที่หากใครพูดคำนี้ขึ้นมาก็ต้องมีคำถามต่อท้ายว่าแปลว่าอะไร นอสแตลเจียเป็นคำประสมจากภาษากรีกคือคำว่า nostos แปลว่าการกลับบ้าน กับ algos ที่แปลว่าความเจ็บปวด เมื่อรวมกันจึงมีความหมายถึงอาการคิดถึงบ้าน(homesickness) ซึ่งความหมายนี้เป็นคำที่ถูกใช้ในวงการแพทย์มาก่อน     แต่มาวันนี้ได้มีการใช้ในความหมายที่กว้างขึ้นถึงการครุ่นคิดอยากให้กลับมาซึ่งประสบการณ์ สิ่งของหรือความคุ้นเคยในอดีต ซึ่งเป็นความรู้สึกนึกคิดปกติ ไม่ใช่โรคอย่างตอนแรกเริ่ม 

 
มีผู้อธิบายไว้ว่า นอสแตลเจีย เป็นกระบวนการของความคิดโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกไม่มั่นคงต่ออนาคต และความรู้สึกขาดหายบางอย่างในปัจจุบัน ตลอดจนถึงความต้องการอดีตเป็นหลักยึดที่มั่นคง  อดีตจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาทำหน้าที่เติมเต็มทั้งสามส่วนดังกล่าว เนื่องด้วยความทรงจำมนุษย์มักสร้างภาพของอดีตไว้สวยงามกว่าความจริง กระแสหวนไห้อดีตจึงเริ่มเข้ามาสู่การรับรู้ของผู้คนผ่านแฟชั่น หรืองานประเภทเพลง ภาพยนตร์ และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย  ที่มีทั้งแนววินเทจ (vintage) หรือแนวรีโทร (retro) ให้เห็นมากมายซึ่งแฟชั่นเป็นงานที่ชี้นำรสนิยมของสังคม จึงทำให้นอสแตลเจียกลับมาสู่วิถีชีวิตของคนหรือไลฟ์สไตล์ในที่สุด และจะกลายเป็นกระแสหรือเทรนด์ที่สำคัญของโลกยุคใหม่ 
 
ในด้านการถ่ายภาพหรือภาพยนตร์ เราสังเกตเห็นความรู้สึกร่ำไห้ต่ออดีตอย่างไร อยากให้ลองพิจารณาลักษณะของภาพที่นิยมในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับความนิยมในยุคก่อนหน้านี้ ในช่วงปีทศวรรษ 1940 ผู้สร้างภาพยนตร์นั้นพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะให้ได้มาซึ่งภาพที่มีความชัดลึก เห็นชัดเจนทั้งใกล้ไกลตลอดทั้งภาพ แม้ว่าตัวกล้องถ่ายภาพยนตร์ยุคนั้นจะเอื้อให้เกิดลักษณะภาพที่เรียกว่าชัดตื้นมากกว่า แต่การถ่ายภาพชัดตื้นกลับถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้ฝีมือและไร้รสนิยม อันจะเห็นได้จากภาพยนตร์ต้นแบบที่นำแฟชั่นเชิงการนำเสนอในยุคนั้นอย่าง Citizen Kane  
 
กลับมายุคปัจจุบันหากสังเกตจากมิวสิควีดิโอที่มีอยู่จะพบว่าทุกวันนี้เทคนิคทางภาพที่นิยมใช้มีอยู่และเห็นได้ชัดคือ หนึ่ง ใช้ภาพชัดตื้น(หรืออาจถึงขั้นเบลอทั้งภาพ) สอง ใช้การถ่ายไฮสปีดเพื่อทำซูเปอร์สโลว์โมชั่น ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของภาพเชิงความทรงจำที่มักพร่าเลือนไม่ชัดเจน(แต่ดูสวยงาม)และเชื่องช้ากว่าปกติ นอสแตลเจียในงานด้านภาพจึงมิใช่เพียงการลอกเลียนเพียงวิธีการโบราณ หากแต่เป็นการลอกเลียนลักษณะของความทรงจำของเรามากเสียกว่า
 
และหากมองไปถึงภาพที่ผ่านการตกแต่งจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ ยกตัวอย่าง Instagram ยิ่งจะทำให้เห็นว่าแม้กล้องจากสมาร์ทโฟนจะให้ความละเอียดและคมชัดสูงขึ้นเท่าใด แต่คนก็กลับนิยมที่จะตกแต่งภาพให้ผิดเพี้ยนไป ถึงขนาดมีคนบอกว่า อินสตาแกรม คือโปรแกรมที่ทำให้ภาพเป็นสีเหลืองและกลายเป็นชัดตื้นเทียม ซึ่งสีซีเปียหรือเหลืองนั้นก็เป็นสีที่มีความหมายถึงภาพอดีตอยู่แล้ว และการทำให้คอนทราสต์และความคมชัดลดลงใกล้เคียงภาพจากฟิล์มแทนที่จะเป็นดิจิตอลก็แสดงให้เห็นถึงความแสวงหาความคุ้นเคยในอดีตของผู้คนโดยไม่รู้ตัว 
 
และกระแสหวนไห้อดีตนี้ก็คงไม่หลุดหายไปง่ายๆ อย่างแฟชั่นอื่นๆ ตราบใดที่การเปลี่ยนแปลงของปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วเสียจนผู้คนรู้สึกจับต้องไม่ได้ และต้องแสวงหาความมั่นคงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและหยุดนิ่งแล้วอย่างอดีตมาชดเชย
 
Reference:
  sukkunsi. nostalgia.[Online]. 2012.  Available from: http://sukkunsi.multiply.com/reviews/item/2 [2012,July 30]
  ฟรานซิส นันตะสุคนธ์. “RETRO” is based on “What is Nostalgia?”. Positioning Magazine (กรกฎาคม 2547).
  Trend Watching. Value and nostalgia are top consumer trends for 2010.[Online].2009  Available from: http://trendwatching.com/about/inmedia/articles/2009_value_and_nostalgia_are_top_co.html [2012,July 30 ]
  Bordwell, David , Thomson, Kristin. Film Art :  An Introduction. 8th Edition. New York : McGraw-Hill, 2008.
  Wikipedia. Nostalgia.[Online]. 2012.  Available from:  http://en.wikipedia.org/wiki/Nostalgia [2012,July 30]